วิธีทำน้ำพริก มะม่วงน้ำปลาหวาน มะม่วงกะปิน้ำปลาหวาน เคล็ดลับ น้ำพริก ยอดฮิต อันดับหนึ่ง เคล็ดลับ อร่อยแน่ ง่าย แต่อร่อย ทำกินได้ ทำขาย รวยแน่ๆ


วิธีทำ น้ำพริก  มะม่วงน้ำปลาหวาน  สูตรเด็ด มะม่วงกะปิหวาน หรือ กะปิหวาน โคตรเด็ดอร่อยและ ง่าย การันตี เหมือนเคย ทำกินได้ ทำขายก็รวย 



น้ำพริกมะม่วงน้ำปลาหวาน มะม่วงกะปิหวาน หรือ เคยหวาน แลัวแต่จะเรียก เป็นเมนูยอดนิยม ตลาดกาล ทุกเวลา และ สถานที่ เมนูนึง ของคนไทย โดย เฉพาะ สำหรับ ท่านสุภาพสตรี กินได้กินดี  ตลอดปี ตลอดวัน ( อิๆ มีแซว) ก็เดียวนี้ มะม่วง มันมี ทั้งปี แล้วนี่ ! (อ้ะ มีเถียง) ใช่เลย  ทั้งนอกฤดู ในฤดู สารพัด ชนิด เมืองไทย  มีทั้งเขียวเสวย,แรดมัน,มันเดือนเก้า, ฟ้าลั่น, น้ำดอกไม้สุก, น้ำดอกไม้เปรี้ยว, มหาชนก, มะม่วงแก้ว(ไทยเดิม)  แถมมี แก้วขมิ้น แก้วเขมร มาแซมอีก น่าสน  (เปรี้ยว ปากจริง พิมพ์ไปนำลายสอ) ส่วนตัวแล้ว ชอบ เพชรบ้านลาด หวานเปรี้ยว พอดีมาก แต่บางที หากินยาก ผ่านเพชรบุรี จังหวะดีๆ ถึงได้ซิม ลองเลย แล้วจะติดใจ

มีหลายสูตร หลายวิธี แต่วันนี้ มาแนะนำ วิธีง่าย แต่แตกต่าง และ อร่อยชัวร์ ทดลองมาหลายสูตร อันนีเด็ดสุด ครับ ทำกินก็ได้ ทำขายก็รวย ( รวยแระ อย่า ลืมกันนะ  อิๆ )
อร่อยกว่าแน่ หลายๆ คนบอก แค่ต้มกะปิ นำตาล ใส่พริก ก็ได้แระ ยากอะไร แต่บางคนก็ว่า เหมือนมันขาดอะไรไม่โดน มาดูกันเลย ถึงจะเป็นเมนู ง่ายๆ แต่ถ้าทำให้อร่อย โดนใจ ใครๆก็ทึ่ง  ต้องสูตรนี้เลย รับรอง

เครื่องปรุง และ วัตถุดิบ

1.น้ำตาลมะพร้าว 10 ช้อนโต้ะ (หรือ ใช้ผสมน้ำตาลทราย ครึ่งนึง)
2.น้ำพริกเผา 2-3 ช้อนโต้ะ
3.กะปิดี (กะปิแกง) 2 ช้อนโต้ะ
4.น้ำปลาดี  2 ช้อนโต้ะ
5.หอมแดงไทย 50 กรัม ชอยบางๆ
6.หอมแขก(หอมจีน) 100 กรัม ชอยบางๆ
7.พริกขี้หนู 50 กรัม (ซอยเล็ก บางส่วนใส่เป็นลูกโดดทั้งเม็ด)
8.พริกป่น  1-2 ช้อนโต้ะ
9.กุ้งแห้ง  60 กรัม



วิธีทำ
1. เอากะปิ และ กู้ง ไปคั่วในกระทะก่อน ให้หอมไม่มี กลิ่นคาว สัก 2-3 นาที
2. แบ่งกุ้งแห้ง ครึ่งนึง เอาไปต้ม หรือ อย่างน้อยแช่น้ำ แล้วไปปั่น หรือ ตำ ให้ฟู พักไว้
3. เอากะปิ และ น้ำตาลปี้บ(เพื่อให้เกิดปฎิกิริยาเคมีเข้ากันดีดว่า ควรเอานวดเข้ากัน เป็นส่วนตัวก่อน  พักไว้)
4.  น้ำเปล่า ซักเล็กน้อย ครึ่งถ้วยตวง ใส่กะปิและน้ำตาล ไฟอ่อน ลงไป ต้ม ให้ละลาย แล้วค่อย ใส่พริกป่น น้ำพริกเผา น้ำปลา  กุ้งแห้งป่น คนเข้ากัน ใช้ไฟกลาง ต้มต่อไปซัก 3-4 นาที แล้ว ค่อยเติม พริกซอย หอมซอย  กุ้งแห้งเป็นตัว คนอีกที ต้มต่อ สัก 2-3 นาที เสร็จ

4. ตักเสริฟ โรยหน้าด้วย กุ้งแห้ง หอมแดง พริกสด หั่น และ พริกเม็ดลูกโดดด้วยก็ได้ อีกที

อร่อยเด็ด เข็ดฟัน ชัวร์ ...

ข้อสังเกตุ

1.การคั่วกะปิ และ กุ้งแห้ง เพื่อกำจัดกลิ่นคาว และให้หอมขึ้น
2.พริกแห้งคั่ว ต้องใช้พริกเผ็ดๆ เสริมรสได้ดีมาก ตามแต่จะสรรหาได้ และ ชอบ เช่น
พริกกะเหรี่ยง พริกหัวเรือ หรือ พริกยอดสน หรือ พริกลาว(เม็ดป้อมๆเหหลืองๆส้มๆเผ็ดๆ) เด็ดสุด ใส่มากน้อย กว่านี้ ได้เลย
3 สูตรนี้ ถ้าจะให้ดี ให้โดน  ไม่ใช้น้ำตาลทรายนะครับ  น้ำตาลมะพร้าว หวานนุ่มกว่า
4 น้ำปลา มากน้อย อยู่ทีกะปิ นะครับ ว่า เค็มมากไหม
5 หอมแดง ไทยจีน ให้คนละฟิลนะครับ  หอมแขก หรือ หอมจีน ให้เนื้อสัมผัส และ หวานของไทย ให้กลิ่นและรส แรงเข้มข้นกว่า
6.พริกเผา เป็นส่วนเสริม การันตี ความนัว ความกลมกล่อมระดับนึงเลย สำหรับมือใหม่ มั่นใจได้
7.กะปิ ใช้กะปิแกง หรือ กะปิทำจากกุ้ง หรือ เคย  แนะนำ ครับ
8.น้ำเปล่ามากหรือ น้อย ได้เลย หรือ จะใส่แค่ขลุกขลิก เข้มข้นก็ไม่ว่ากัน
9.กุ้งแห้ง ถ้าจะให้ดี ให้ทำเอง (ตามวิธีที่เคยนำเสนอไป วิธีทำกุ้งแห้ง ) ครับ ถ้าทำขาย ลองนึกดู ว่า ถ้ามีกุ้งแก้ง ตัวโตๆมาลอยหน้า ลอยตาท้าทายเราอยู่ ในกระปุก ถ้าเป็นเรา วิ่งเข้าใส่เลย ท้าทายดีนัก
เมนูนี้ สำหรับหลายๆ ไคลแมกซ์ หรือ จุดเด่น ของเรื่อง อยู่ที่กุ้งแห้ง  เคียวหนึบ ได้ชอบใจจริงๆ อาจจะใช้กุ้ง ใหญ่สุด (ใหญ่แค่ไหน ทำเอง ตามใจ ) และ ขนาดกลาง ผสม กัน เล็กสุด เอาไปตำ หรือ ปัน ครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น